วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2563

SOCIAL MEDIA มีอิทธิพลต่อในชิวิตประจำวันเราอย่างไร?

ข้อดีและข้อเสียของ social media มีอะไรบ้าง?
social media คือ สื่อสังคมออนไลน์ที่ทุกๆ คนสามารถแสดงความคิดเห็น รับรู้ข่าวสาร ได้อย่างแพร่หลาย ไม่จำเป็นว่าคนๆ นั้นจะเป็นใครหรือมาจากไหนเพียงแค่พวกเขามีบัญชีผู้ใช้งานของ social media แต่ละชนิดก็สามารถที่จะเข้าไปเป็นสมาชิกพร้อมกับใช้งานกับสิ่งเหล่านี้ได้อย่างหลากหลาย เราจะเห็นว่าด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน social media เองก็กลายเป็นสิ่งที่พัฒนาควบคู่กันไปด้วยอย่างไม่หยุดยั้ง อย่างไรก็ตามทุกๆ อย่างบนโลกใบนี้ก็ล้วนแล้วแต่มีข้อดีและข้อเสียด้วยกันทั้งสิ้น social media เองก็เช่นเดียวกันที่จะต้องมี 2 สิ่งนี้ควบคู่กันไปขึ้นอยู่กับว่าใครจะสามารถดึงจุดไหนไปใช้งานได้ก็เท่านั้นเอง ข้อดีของ social media 1.สามารถแลกเปลี่ยนและศึกษาข้อมูลที่ต้องการได้รวดเร็ว – ด้วยความที่ยุคนี้อินเตอร์เน็ตคือสิ่งที่สามารถทำได้เราทำอะไรได้อย่างรวดเร็ว social media เองจึงกลายเป็นตัวกลางที่จะเอาไว้แลกเปลี่ยนข้อมูลหรือศึกษาข้อมูลต่างๆ ได้รวดเร็ว ทันใจ 2.สะดวกรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย – ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาความรู้ การติดต่อสื่อสารกับผู้อื่นสามารถทำได้ง่ายๆ โดยที่ไม่ต้องเสียเงินอะไรมาก 3.สามารถแสดงสิ่งต่างๆ ของตัวเองให้คนอื่นได้เห็นได้ – ความสามารถทุกอย่างสามารถแสดงผ่าน social media ได้ และหากเป็นที่ถูกใจคนอื่นก็จะได้รับความนิยมจนกลายเป็นคนดังไปอย่างง่ายๆ 4.สร้างรายได้ให้กับผู้ใช้งาน – ตรงจุดนี้เราเห็นได้ชัดเจนมากในปัจจุบัน ทั้งการขายของออนไลน์ การรับงานต่างๆ ผ่าน social media เหล่านี้ล้วนสร้างรายได้ให้กับผู้ที่ใช้งานกันมานักต่อนักแล้ว 5.ทำให้ติดต่อคนที่ห่างไกลหรือไม่ได้ติดต่อกันนานได้ง่าย – นอกจากนี้ยังรวมไปถึงยังสามารถเห็นความเคลื่อนไหวของคนเหล่านี้ได้แม้ไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ตามที 6.เป็นช่องทางการตลาดรูปแบบใหม่ – องค์กรหลายๆ แห่งหันมาให้ความสำคัญกับ social media เป็นอย่างมากในการสร้างเป็นช่องทางการตลาดใหม่ๆ เพื่อขายสินค้าหรือบริการ
ผลกระทบของSocial media
โลกทุกวันนี้เป็นโลกดิจิทัล ทุกคนต้องใช้เทคโนโลยี ในด้านจิตวิทยามีนักวิทยาศาสตร์ ได้ศึกษาและสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยี ว่ามีผลดีหรือ ผลเสียอย่างไรต่อผู้ใช้ในประเทศต่างๆ มีข้อมูลที่น่าสนใจ และพบว่าโซเชียลมีเดีย ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต ดังนี้ ชาวสหรัฐอเมริกาเสพติดโซเชียลมีเดีย (Social media is addictive) พบว่า 63 % ของชาวอเมริกัน ล็อคออนเฟสบุคเป็นประจำทุกวัน และพบว่า 40 % ล็อคออนมากกว่า 1 ครั้งในแต่ละวัน คนที่มาใช้เฟสบุค ต่างมีวัตถุประสงค์และเหตุผลมากมายหลายหลากในการมาใช้พื้นที่นี้ บ้างก็เพื่อการผ่อนคลาย ลดความเบื่อหน่าย ความสับสนในใจ การกด “Like” และการคอมเม้นท์เป็นการเสริมแรง ทางบวกในการโพสต์ข้อความ และเป็นการยากที่จะทำให้หยุดโพสต์ และนักวิจัยได้ทำ แบบประเมินการติดเฟสบุค หรือไม่ (The Berge Facebook Addiction Scale.) โซเชียลมีเดีย มีผลทำให้ผู้คนเกิดการเปรียบเทียบชีวิตของตนกับผู้อื่น การโพสต์เหตุการณ์ เรื่องราวบนเฟสบุค เพื่อแสดงว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนบ้าง มีกิจกรรมอะไรบ้าง ไปเที่ยวไหน ทำอะไร กับใคร ฯลฯ สิ่งเหล่านี้นำไปสู่การเปรียบเทียบการใช้ชีวิตของตนกับคนอื่น ในบางคนการได้รับข่าวสารเหล่านี้ ทำให้เกิดอารมณ์เชิงลบ จากการสำรวจจากผู้ใช้โซเชียล มีเดียในอังกฤษ (2012) พบว่า 53% ยอมรับว่า โซเชียล มีเดียทำให้พฤติกรรมของตนเปลี่ยนไป และ 51% บอกว่า ตนมีพฤติกรรมเชิงลบ เพราะความเชื่อมั่นในตนเองลดลง พวกเขารู้สึกว่าเป็นการไม่ยุติธรรมในการเปรียบเทียบตนเองกับคนอื่น โซเชียลมีเดีย ทำให้เวลาในการพักผ่อนน้อยลง จากการวิจัยที่อังกฤษ พบว่า 2 ใน 3 ของกลุ่มตัวอย่างตอบว่า เวลาในการพักผ่อนหย่อนใจของตนน้อยลง โซเชียลมีเดีย ทำให้เกิดการคุกคามทางไซเบอร์มากขึ้น (cyberbullying) การคุกคามทางไซเบอร์ ควรเป็นประเด็นที่ควรตระหนักโดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น มีองค์กรที่ชื่อ Enough is Enough ที่ทำงานเกี่ยวกับความปลอดภัยจากการใช้อินเตอร์เน็ต สำรวจพบว่า วัยรุ่น 95% พบเห็นการ คุกคามทางโชเชียล มีเดีย และ 33 % เคยเป็นผู้ถูกคุกคามทางไซเบอร์ โซเชียลมีเดีย มีผลทำให้วัยรุ่นใช้ยาเสพติดและสุรามากขึ้น พบว่า70 % เด็กอายุ12-17 ปีที่เสพยาเสพติด ใช้โซเชียลมีเดีย และ 40 % ยอมรับว่า เห็นภาพการใช้ยาเสพติดจากโซเชียลมีเดียและมีอิทธิพลต่อวัยรุ่น โซเชียลมีเดีย ทำให้คนที่ใช้ไร้ความสุขได้ จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยมิชิแกน เก็บข้อมูลจากผู้ใช้เฟสบุคว่า มีความสัมพันธ์กับอารมณ์ของผู้ใช้อย่างไร พบว่า ผู้ใช้เฟสบุค มากมีความสุขน้อยกว่าคนที่ใช้เฟสบุคน้อย และความพึงพอใจในชีวิตต่ำ โซเชียลมีเดีย ทำให้เกิดความกลัวว่าจะตกยุค หรืออีกเป็นที่รู้จักกันว่าFOMO (Fear of missing out) เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดกับผู้ใช้โซเชียลมีเดียที่กลัวว่า จะพลาดจากข่าว กดดันให้ต้องแชร์และติดตามคนอื่น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนอื่น และแชร์ทุกๆประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิต จากการสำรวจพบว่า ผู้ใช้ขาดความมั่นใจหลังจากใช้แอพพลิเคชั่น Pinterest เพราะรู้สึกว่า ฝีมือ ความประณีต เชี่ยวชาญหรือความคิดสร้างสรรค์ไม่มากพอ เฟสบุคหรือทวีตเตอร์ทำให้คนที่ใช้รู้สึกว่าเขาไม่ประสบผลสำเร็จหรือไม่เฉลียวฉลาดได้เช่นกัน โซเชียลมีเดีย ทำให้คนทำงานหลายอย่างและทำงานไม่สำเร็จสักงาน ขณะที่เปิดบนจอคอมพิวเตอร์ มีกี่หน้าต่างที่เปิดไว้ และหนึ่งในนั้น คือโซเชียลมีเดีย จากการวิจัยเกี่ยวกับความสามารถของสมองคน พบว่า ความสามารถของสมองคน ไม่สามารถจะโฟกัสเรื่อง 2 เรื่องในเวลาเดียวกันได้ สมองของเราต้องแบ่งไปสนใจอีกสิ่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว ทำให้ทำงานไม่สำเร็จ ข้อแนะนำ คือให้ปิดทวีตเตอร์หรือเฟสบุคเสียก่อน จะช่วยให้ทำงานได้สำเร็จ เพียงแต่ควรเลือกว่า จะทำงานให้เรียบร้อยก่อนที่จะล็อคออนโซเชียลมีเดีย มาถึงตรงนี้อาจจะคิดว่าการใช้โชเชียลมีเดียนั้น มีแต่ด้านลบเท่านั้นหรือ โซเชียลมีเดีย ทำให้มีการติดต่อกับคนอื่นๆเพิ่มขึ้น คุณจะมีเพื่อนมากขึ้น ได้รู้จัก สังคม วัฒนธรรม ประเพณี ของสังคมทั่วโลกมีเพื่อนที่อยูในทุกมุมโลก โซเชี่ยลมีเดีย มีผลต่อจิตวิทยาเชิงบวก เช่น การรักษาสัมพันธภาพกับคนอื่นไว้ การมีช่องทางติดต่อคนสำคัญในชีวิต มีการศึกษาพบว่าประโยชน์ของโซเชี่ยลมีเดีย ทำให้คนที่มีความรู้สึกมีปมด้อย มีความนับถือในตนต่ำ ได้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดีย ในการสร้างความผูกพันกับคนอื่น ๆ และช่วยยกความรู้สึกที่ต่ำต้อย หดหู่ ซึมเศร้าของพวกเขาขึ้นมา โซเชียลมีเดีย ช่วยเพิ่มทักษะทางสังคมให้ผู้คน จากการนำเสนองานวิจัย ในงานครบรอบ 119 ปี ของ American Psychological Association พบว่า วัยรุ่นที่มีบุคลิกภาพแบบเก็บตัวได้ประโยชน์ในด้านทักษะทางสังคมจากโซเชียลมีเดีย เพราะคนที่ขี้อายจะรู้สึกว่าตนเอง มีความปลอดภัย เมื่ออยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟน รู้สึกปลอดภัยในการแสดงความคิดเห็น และความรู้สึกผ่านทางโชเชียลมีเดีย Dr. Larry D. Rosen กล่าวว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งดีต่อเด็กวัยรุ่น ที่ได้แสดงความรู้สึกเห็นอกเห็นใจไปยังผู้อื่น ความจริงโซเชียลมีเดีย ยังมีด้านดีๆอีกมาก ถ้าใช้อย่างเหมาะสมและเกิดประโยชน์กับรูปแบบชีวิตตามความจำเป็น โซเชียลมีเดีย ก็จะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสร้างความพอใจในชีวิตและคุณภาพชีวิต
SOCIAL MEDIA และผลกระทบของโซเชียลมีเดียต่อสังคมไทย
สำหรับในยุคนี้ เราคงจะหลีกเลี่ยงหรือหนีคำว่า Social Media ไปไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็จะพบเห็นมันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหลายๆ คนก็อาจจะยังสงสัยว่า “Social Media” มันคืออะไรกันแน่ วันนี้เราจะมารู้จักความหมายของมันกันครับ คำว่า “Social” หมายถึง สังคม ซึ่งในที่นี้จะหมายถึงสังคมออนไลน์ ซึ่งมีขนาดใหม่มากในปัจจุบัน คำว่า “Media” หมายถึง สื่อ ซึ่งก็คือ เนื้อหา เรื่องราว บทความ วีดีโอ เพลง รูปภาพ เป็นต้น ดังนั้น คำว่า Social Media จึงหมายถึง สื่อสังคมออนไลน์ที่มีการตอบสนองทางสังคมได้หลายทิศทาง โดยผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต พูดง่ายๆ ก็คือเว็บไซต์ที่บุคคลบนโลกนี้สามารถมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบกันได้นั่นเอง พื้นฐานการเกิด Social Media ก็มาจากความต้องการของมนุษย์หรือคนเราที่ต้องการติดต่อสื่อสารหรือมีปฏิสัมพันธ์กัน จากเดิมเรามีเว็บในยุค 1.0 ซึ่งก็คือเว็บที่แสดงเนื้อหาอย่างเดียว บุคคลแต่ละคนไม่สามารถติดต่อหรือโต้ตอบกันได้ แต่เมื่อเทคโนโลยีเว็บพัฒนาเข้าสู่ยุค 2.0 ก็มีการพัฒนาเว็บไซต์ที่เรียกว่า web application ซึ่งก็คือเว็บไซต์มีแอพลิเคชันหรือโปรแกรมต่างๆ ที่มีการโต้ตอบกับผู้ใช้งานมากขึ้น ผู้ใช้งานแต่ละคนสามารถโต้ตอบกันได้ผ่านหน้าเว็บ

SOCIAL MEDIA มีอิทธิพลต่อในชิวิตประจำวันเราอย่างไร?